ปัจจุบันมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นร้านค้า บริษัท นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ต่างก็เลือกใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะการเลือกใช้ search engine ในการค้นหามากกว่า 90% จะคลิกดูรายละเอียดเว็บไซต์หรือข้อมูลที่อยู่ในลำดับต้น ๆ ของหน้าแรกในการค้นหา

ซึ่งเราเรียกเว็บไซต์หรือข้อมูลที่ถูกค้นหาในลำดับต้น ๆว่า SEO หรือ Search Engine Optimization และโดยส่วนใหญ่ทุกคนจะรู้วิธีการทำอยู่แล้ว แต่ถ้าหากอยากประสบความสำเร็จจะต้องไม่ทำ สิ่งต่อไปนี้

การ Copy ข้อมูลหรือรูปภาพ

ข้อห้ามสำหรับการทำ SEO ก็คือการคัดลอก สำเนาข้อมูลจากเว็บไซต์อื่น มาใส่ในเว็บไซต์ของตนเอง โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีการเรียบเรียงใหม่ รวมไปถึงรูปภาพที่มีลิขสิทธิ์โดยเจ้าของรูปภาพสามารถที่จะแจ้งเตือนไปยัง search engine ผู้ให้บริการได้ เมื่อมีการตรวจสอบว่ามีการ copy จริง ก็จะส่งผลให้อันดับการค้นหาของเว็บไซต์ลดลงหรือถึงขั้นอาจโดนแบนหน้าเว็บจากการค้นหาก็เป็นได้

เว็บไซต์โดนแฮก

การแฮกเว็บไซต์ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะการแฮกเพื่อเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือปิดบล็อกเว็บของคนอื่นหรือแอบฝังไวรัส มัลแวร์เพื่อกลั่นแกล้งผู้คนเข้ามาในเว็บ ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์นั้นได้รับผลกระทบและมีผลต่อการจัดอันดับเป็นอย่างมาก เมื่อSearch engine ตรวจพบปัญหา ก็จะทำการแจ้งเตือนคนที่เข้ามาในเว็บ ว่าเว็บไซต์มีอันตรายคุณยืนยันที่เข้ามาหรือไม่ ทำให้ไม่มีคนกล้าเข้ามาภายในเว็บไซต์อีกเลย

การใส่โฆษณามากเกินไป

เว็บไซต์ที่ดีและมีคุณภาพควรใส่โฆษณาตามความเหมาะสมและหากเป็นไปได้ไม่ควรใช้โฆษณาที่เป็น Pop Up เด้งขึ้นมาหน้าจอเ พราะถือเป็นการรบกวนผู้ใช้งานส่งผลให้ Google ลดการจัดอันดับในการค้นหา ยกตัวอย่างที่ดี ของเว็บการตลาดกีฬา ผลบอลสด ของค่าย “ผลบอลสด247” การโฆษณาควรมีพื้นที่ไม่เกิน 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของหน้าจอและควรกำหนดปุ่มปิดเพื่อให้ User สามารถปิดโฆษณาได้ด้วยตนเอง

อยากให้ยอดขายปัง ห้ามทำ SEO ต่อไปนี้

ปัจจัยที่มีผลต่อการทำ SEO ปัจจัยที่มีผลต่อการทำ SEO สามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ส่วนที่สำคัญได้แก่

ปัจจัยจาก Social Media การที่เว็บไซต์ของคุณจะติดอันดับและอยู่ในหน้าค้นหาลำดับต้น ๆได้ส่วนหนึ่งมาจากการกดไลค์ กดแชร์ ผ่านทางลิงก์ของ Social Media ที่มีการนำไปโฆษณาทิ้งเอาไว้ เพราะทาง search engine จะมีการตรวจสอบแหล่งที่มาของบทความ เนื้อหาว่ามีเกี่ยวข้องกันหรือไม่และมีประโยชน์ต่อผู้อ่านอย่างไร ถึงมีการแชร์และกระจายข้อมูลไปให้ผู้อื่น ซึ่งหากเป็นข้อมูลที่ดีและมีคนเข้ามาอ่านจำนวนมากก็จะส่งให้ผลการจัดอันดับของ search engine มีผลมากยิ่งขึ้น

ปัจจัยจากผู้ใช้งาน จากข้อมูลของ Google Analytics สามารถรายงานการใช้งานของบรรดา User ที่คลิกลิงก์เข้ามาเพื่อประเมินถึงผู้ชมที่เข้ามาภายในเว็บไซต์และระยะเวลาที่ใช้งาน ก่อนที่จะประเมินว่าเว็บไซต์มีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าเป็นเว็บไซต์ที่ดีก็จะทำให้ User อยู่ในเว็บไซต์นาน ๆโดยที่ไม่ปิดไปก่อนแต่ถ้าเป็นเว็บที่ไม่มีคุณภาพก็จะทำให้คนใช้งานเลือกที่จะอยู่ภายในเว็บไซต์เวลาไม่นานตรงนี้จะส่งผลต่อการจัดอันดับของ Google ด้วยเช่นกัน

ในการทำ SEO เมื่อรู้ถึงข้อห้ามการทำ SEO แล้วก็อย่าลืมทำเว็บไซต์ที่ดีมีคุณภาพตรงตามกฎของทาง search engine เพราะจะช่วยทำให้คุณสามารถก้าวขึ้นไปอยู่อันดับต้น ๆ ของหน้าค้นหาได้ ยิ่งทำตรงตามกฎและมีคุณภาพมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้คุณสามารถยืนหยัดเป็นอันดับหนึ่งในการค้นหานั้นได้

Share